เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายบารัค โอบามา ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยเอาชนะคู่แข่งอย่างนายมิตต์ รอมนีย์ ไปอย่างเฉียดฉิวในการลงคะแนนแบบ popular vote แต่ได้คะแนนแบบ electoral vote อย่างท่วมท้น ซึ่ง GaneshaSpeaks.com ได้ทำนายผลการเลือกตั้งดังกล่าวไว้อย่างแม่นยำและเผยแพร่ผ่านพีอา ร์นิวส์ไวร์ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายนแล้ว
คำถามสำคัญตอนนี้คือ โอบามาจะสามารถควบคุมตัวเลขขาดดุลงบประมาณและปลดปล่อยสหรัฐจากภาวะ เศรษฐกิจถดถอยที่จวนเจียนจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ โอบามาจะแก้ปัญหาอิหร่าน-อิสราเอลอย่างไร และที่สำคัญที่สุดคือ โอบามาจะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหนในสมัยที่ 2 ซึ่งคณะโหราจารย์ผู้เชี่ยวชาญของ GaneshaSpeaks.com ได้ใช้หลักวิชาโหราศาสตร์ฮินดู (Vedic Astrology) ในการวิเคราะห์ดวงชะตาวันที่โอบามาให้สัตย์ปฏิญาณและทำพิธีสาบานตน รับตำแหน่งผู้นำ เพื่อทำนายเหตุการณ์ในอนาคตช่วงที่โอบามาดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2
ในวันให้สัตย์ปฏิญาณ (20 มกราคม) ดวงจันทร์ถูกเข้าสถิตยทำลายอย่างรุนแรงในกลุ่มดาวภรณี ส่วนในวันทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง (21 มกราคม) ดวงจันทร์อยู่ในตำแหน่งอุจน์และกุมกันกับดาวพฤหัสที่โคจรถอยหลังใน กลุ่มดาวกฤติกา บ่งชี้ว่าโอบามาจะต้องเผชิญกับความสับสนวุ่นวายในภายภาคหน้า โอบามาจะเผชิญความจริงที่อันตรายเกี่ยวกับปัญหาระหว่างประเทศต่างๆ นอกจากนั้นแล้ว สหรัฐจะตกอยู่ในช่วงดาวอังคารทับราหูไปจนถึงเดือนเมษายนปี 2556 บ่งชี้ว่าอาจเกิดวิกฤตที่คาดไม่ถึงซึ่งอาจทำให้ผู้นำสหรัฐพลั้งเผลอ ภายใต้สภาพการณ์นี้ สหรัฐอาจเผชิญการก่อการร้ายซึ่งทำให้ประชาชนเกิดความโกลาหล ในช่วงปี 2556 โอบามาจะต้องเหนื่อยกับปัญหาด้านงบประมาณและการประกันสุขภาพ ขณะเดียวกันวิกฤตยูโรโซนที่ทวีความรุนแรงจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจ สหรัฐ นอกจากนั้นการผงาดขึ้นมาของจีนอาจกดดันให้สหรัฐต้องเผชิญปัญหามากมาย อาทิ การค้าระหว่างประเทศ สิทธิมนุษยชน และกฎหมายพาณิชยนาวี โอบามาอาจถูกท้าทายโดยประเทศอิสลามและผลพวงจากการปฏิวัติประชาธิปไตย ในโลกอาหรับ สำหรับการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานอาจล่าช้าออกไป และความสัมพันธ์กับปากีสถานอาจย่ำแย่ลงกว่านี้อย่างไรก็ดี ดาวพฤหัสที่มีอิทธิพลต่อดวงชะตาในวันทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง จะบันดาลให้โอบามาพบทางเลือกหลายทางในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ซึ่งรวมถึงปัญหาความขัดแย้งอิหร่าน-อิสราเอล ขณะเดียวกันความสัมพันธ์สหรัฐ-อินเดียอาจเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ขึ้นแม้ทั้งสองประเทศจะมีความแตกต่างกันในหลายๆด้านก็ตาม ส่วนดวงชะตาของโอบามาเองกำลังเคลื่อนผ่านช่วงดาวเสาร์-ดาวเสาร์อันทรง พลัง ซึ่งจะทำให้เขามีแนวคิดและนโยบายใหม่ๆในปี 2556 แม้ว่าจะถูกคัดค้านอย่างหนักก็ตาม นอกจากนั้นผู้นำสหรัฐและสภาคองเกรสจะดำเนินมาตรการที่ชัดเจนในปี 2557 ซึ่งอาจทำให้สหรัฐฟื้นตัวอย่างช้าๆจนเข้าสู่ปี 2558 ขณะเดียวกันผู้นำสหรัฐอาจยอมเห็นด้วยกับการปฏิรูปบางอย่างซึ่งเป็น ส่วนหนึ่งของแผน grand bargain
สรุปโดยรวมแล้ว โอบามาจะมีความเด็ดขาดมากขึ้น ทำงานอย่างเข้มแข็งกว่าเดิม และมีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาสำคัญๆที่สืบเนื่องมา
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ค.ศ. 2012 เป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีทุกสี่ปีครั้งที่ 57 และมีขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้ลงสมัครจากพรรคเดโมแครต กับรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน คู่ลงสมัคร ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง คู่แข่งคนสำคัญ คือ มิตต์ รอมนีย์ ผู้ลงสมัครจากพรรครีพับลิกันและอดีตผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ และพอล ไรอัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐวิสคอนซิน
คู่ลงสมัครตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งสมาชิก วุฒิสภาสหรัฐอเมริกาซึ่งวุฒิสมาชิกหนึ่งในสาม (33 ที่นั่ง) ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ และการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกสองปีเพื่อเลือกตั้งสมาชิกมายังสมัย ประชุมสภาคองเกรสที่ 113 นอกจากนี้ ยังมีการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐสิบเอ็ดรัฐและการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติใน หลายรัฐพร้อมกันด้วย
